ต้องรู้ ก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้มีกี่ชนิด คุณสมบัติต่างกันอย่างไรบ้าง

เฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้มีกี่ชนิด


ต้องรู้! ก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ไม้มีกี่ชนิด คุณสมบัติต่างกันอย่างไรบ้าง?

ไม้เป็นวัสดุหลักที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะมีความแข็งแรงทนทาน และมีความหลากหลายสูง สำหรับใครที่สนใจ หรือมีแพลนที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ยังไม่รู้จะเลือกไม้แบบไหน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับไม้แต่ละชนิด จะมีไม้แบบไหนบ้าง แต่ละชนิดคุณสมบัติเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมๆ กันได้เลย


ประเภทของไม้ มีอะไรบ้าง?

อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าไม้จะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิด แต่ถ้าหากจะให้จำแนกออกเป็นประเภท จะแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ นั่นก็คือ

ประเภทที่ 1 : ไม้ธรรมชาติ (Natural wood or solid wood)

เป็นไม้ที่จะได้มาจากลำต้นของต้นไม้โดยตรง แบ่งได้เป็น 2 ประเภทย่อยๆ คือ

  1. ไม้เนื้อแข็ง คือ ไม้ที่ได้มาจากไม้ยืนต้นที่อายุหลายสิบปี ใบมีลักษณะกว้าง วงปีแคบและมากกว่าไม้เนื้ออ่อน

ลักษณะของไม้เนื้อแข็ง : ลายเนื้อไม้มีความละเอียด สีเข้ม เนื้อไม้มีความแน่น น้ำหนักมาก และมีความแข็งแรงทนทานสูง ส่วนใหญ่ไม้เนื้อแข็งที่นิยมนำมาใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีด้วยกันหลายชนิด ตัวอย่างเช่น

  • ไม้โอ๊คแดง(Red Oak)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลเข้มอมแดง มีสัมผัสที่หยาบ เสี้ยนลึกเห็นชัด นิยมนำมาทำ พื้นบ้านและเฟอร์นิเจอร์ไม้
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นสูง ต้านทานแรงกระแทกได้ดี

  • ไม้โอ๊คขาว (White Oak)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีออกสีขาวอมเหลือง ตัวผิวไม้เรียบกว่า ไม้โอ๊คแดง เสี้ยนถี่ละเอียด
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง ผิวสัมผัสมีความเรียบ โทนสีมีความสว่าง

  • ไม้เชอร์รี่ (Cherry)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีโทนน้ำตาลเหลืองหรือสีออกไปทางน้ำตาลแดง เนื้อไม้มีความเรียบ คล้ายกับไม้มะค่า
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นสูง ดัดให้โค้งงอด้วยไอน้ำได้ มีราคาสูง

  • ไม้วอลนัท (Walnut)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีความแข็งมากๆ แก่นไม้จะมีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข็ม
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทาน มีลวดลายเฉพาะตัว มีความหนาเเน่นปานกลาง มีน้ำหนักมาก และราคาสูง

  • ไม้เมเปิ้ล (Maple)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีขาวครีมไปจนถึงสีน้ำตาลอมเหลือง และสีน้ำตาลอมแดง มีลวดลายและตาไม้ค่อนข้างมาก
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักมาก ทนต่อการขีดข่วน ดัดให้โค้งงอด้วยไอน้ำได้

  • ไม้บีช (Beech)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลออกขาวอมเหลืองไปจนถึงสีขาวอมส้ม เนื้อไม้มีความละเอียด ลายน้อย
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักปานกลาง ย้อมสีได้ง่าย

  • ไม้แอช (Ash)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีเหลืองอ่อนจนเกือบขาว คล้ายไม้โอ๊คขาว แต่จะมีลายไม้มากกว่า
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทาน ทนแรงกระแทกได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง มีน้ำหนักมาก

  • ไม้เวงเก้ (Wenge)

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำ ลายไม้มีความเป็นเอกลักษณ์
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อการทำลายของปลวก-มอด มีราคาสูงมาก

  2. ไม้เนื้ออ่อน คือ ไม้ที่ได้มาจากต้นไม้ที่ใช้เวลาในการเติบโตเร็ว ใบเรียวเล็ก เนื้อไม้มีลายน้อย ตัวลายไม่ละเอียด มีวงปีกว้าง เนื้อไม้จะมีตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม

ลักษณะของไม้เนื้อแข็ง : มีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง แต่เนื้อไม้มีความเหนียว น้ำหนักเบา และมีสีสันที่สวยงาม จึงนิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น

  • ไม้ยางพารา

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีเหลืองอ่อน หรือสีขาว เนื้อค่อนข้างหยาบ แข็งปานกลาง มีวงปีสวย
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง มีอัตราการยืดหดตัวสูง บิดงอได้ สามารถนำไปแปรรูปได้ง่าย

  • ไม้สน

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ มีเนื้อที่ละเอียด และมีตาไม้เป็นวงกลมกระจายอยู่บนเนื้อไม้
คุณสมบัติ : มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรงทนทานพอสมควร ไม่เปราะง่าย รับน้ำหนักได้ดี

  • ไม้กระบาก

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้มีสีเหลืองนวลไปจนถึงสีน้ำตาลอ่อนแกมแดง มีเนื้อที่ค่อนข้างหยาบแต่สม่ำเสมอ
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง แห้งง่าย ทนต่อความชื้นได้ดี

  • ไม้ฉำฉา

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้วงนอกจะเป็นสีขาวเหลือง ส่วนวงในแกนกลางลำต้นจะเป็นสีน้ำตาลเข็มไปจนถึงสีดำ เนื้อไม้มีความหยาบ ลายไม้มีความสวยงาม
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทานพอสมควร น้ำหนักเบา ลวดลายเป็นเอกลักษณ์

  • ไม้สยาขาว

ลักษณะเนื้อไม้ : เนื้อไม้สีชมพูอ่อนแกมขาวไปจนถึงน้ำตาลอ่อนแกมแดง เนื้อไม้มีความหยาบอ่อน
คุณสมบัติ : มีความเหนียว แข็งแรงพอสมควร แปรรูปได้ง่าย น้ำหนักปานกลาง

ประเภทที่ 2 : ไม้ประกอบ (Processed wood)

เป็นไม้ที่ถูกย่อยเป็นชิ้น หรือไม้ที่ได้จากการนำไม้หลายๆ ส่วนมากผ่านกระบวนการเพื่อให้ไม้เหล่านั้นรวมกันเป็นชิ้นเดียว ไม้ประกอบมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น

  • ไม้อัด (Plywood)

เป็นไม้ที่เกิดจากการนำไม้แผ่นบางๆ หลายแผ่นมาอัดเข้าด้วยกัน โดยใช้กาวเป็นตัวเชื่อมยึดแผ่นไม้ แล้วนำไปอบจนแห้ง ซึ่งในการวางแผ่นไม้จะต้องวางในลักษณะที่แนวเสี้ยนขวางตั้งฉากซึ่งกันและกัน เพื่อคุณสมบัติด้านความแข็งแรง และเพื่อลดการขยายและการหดตัวในแนวระนาบของแผ่นไม้ให้น้อยที่สุด
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง มีความคงตัวไม่ยืดหด รับน้ำหนักได้พอสมควร

  • ไม้อัด OSB (Oriented Strand Board Wood)

เป็นไม้ที่เกิดจากการนำไม้ที่มีความแบนบางและยาว มาวางสลับเสี้ยนขวางตั้งฉากกันหลายๆ ชั้น แล้วเชื่อมยึดกันด้วยกาวชนิดพิเศษ โดยมีเรซินเป็นส่วนผสม จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการอัดด้วยความร้อนและแรงดันที่สูง ไม้ที่ส่วนใหญ่นำมาผลิตไม้อัด OSB มีทั้งไม้เนื้ออ่อนในตระกูลสนแถบยุโรป และกลุ่มไม้เนื้อแข็งที่มาจากโซนเอเชีย
คุณสมบัติ : มีความแข็งแรงทนทาน ทนความชื้น เนื้อเหนียว ยืดหยุ่นได้สูง

  • ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด (Particleboard)

เป็นไม้ที่เกิดจากการนำเศษชิ้นไม้ ขี้เลื่อย และเศษวัสดุต่างๆ มาอัดบดเข้าด้วยกันเป็นเนื้อเดียว ด้วยความดันสูง กาวที่ใช้เป็นตัวเชื่อมจะเป็นกาวชนิดพิเศษ เพื่อช่วยปิดผิวหน้าเพิ่มความสวยงามของแผ่นไม้ ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดจึงเป็นไม้ที่มีราคาถูก
คุณสมบัติ : มีลวดลายสวยงามเป็นธรรมชาติ เนื้อเหนียว น้ำหนักเบา แต่ไม่ทนต่อความชื้น

  • ไม้ MDF BOARD (Medium Density FiberBoard)

เป็นแผ่นใยไม้อัดคุณภาพสูง ที่เกิดจากการนำเส้นใยของไม้ที่มีเส้นใยมาใช้เป็นวัตถุดิบ เช่น ไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปตัส ผสมเข้ากับการสังเคราะห์ด้วยแรงดันสูง ทำให้เป็นแผ่นด้วยกรรมวิธีแห้งคืออัดด้วยความร้อน (Dry process) โดยมีกาวเป็นตัวเชื่อม นิยมนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน
คุณสมบัติ : เนื้อไม้มีความละเอียด เรียบเนียน สม่ำเสมอทั่วกันทั้งแผ่น

  • ไม้เกรด FAS (First And Seconds)

จัดเป็นไม้แปรรูปชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในเกรดที่ดีที่สุด เป็นไม้ที่ไม่มีตำหนิและเป็นชิ้นยาว ไม้เกรด FAS ถูกพัฒนาขึ้นมาจากเกรดเดิม หน้าไม้มีความเรียบเนียนเท่ากันทั้งแผ่น นิยมนำมาใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง หรืองานตัดต่อเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในอาคาร

ทั้งหมดที่นำมาฝากในวันนี้เป็นไม้ที่นิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้าง ตกแต่งบ้าน และนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ใครที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์อยู่ ต้องมีปวดหัวแน่นอน เพราะมีเลือกเยอะมากๆ ไม้แต่ละชนิดก็จะมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และ เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน แนะนำว่าให้ค่อยๆ เลือกจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจ และตอบโจทย์มากที่สุด

สนใจเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์มินิมอล มีความเรียบง่ายให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพดี มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่ middle แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์มินิมอล ที่มีสินค้าให้เลือกจำนวนมาก จะแต่งห้องนอน ห้องทำงาน ห้องครัว ก็สามารถตอบโจทย์ได้ครบ